12 ก.ค. 2558

ทำไมแม่บ้านที่บริษัทนี้ถึงได้เงินเกือบแสนบาท จากการจับฉลากสังสรรค์สิ้นปี แต่พอไปดูที่กล่องก็พบความจริงบางอย่าง


"ปาฏิหาริย์" มีจริง
บริษัทแห่งหนึ่งมีธรรมเนียม ในคืนงานสังสรรค์วันคริสมาสต์ของทุกๆปี ว่าจะมีการ"จับฉลาก"

กฎของการจับฉลากคือ : พนักงานแต่ละคน จะมอบเงินคนละ 10 ดอลลาร์เพื่อ...เป็นกองทุน

บริษัทมีพนักงานทั้งหมด 300 คน ดังนั้น จะได้เงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 3,000 ดอลลาร์

สำหรับผู้ที่โชคดีที่ถูกจับฉลากขึ้นมา ก็จะได้เงินจำนวนนี้ทั้งหมดกลับบ้าน

ในวันงาน...
บรรยากาศในสำนักงานครึกครื้นมาก พนักงานแต่ละคนต่างก็เขียนชื่อ ลงในใบฉลาก แล้วใส่ลงไปในกล่องสำหรับจับฉลาก

ขณะกำลังจะเขียนชื่อตัวเองลงไปในฉลาก
พนักงานหนุ่มคนหนึ่งเกิดลังเล คิดถึงแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัท ที่ลูกชายป่วยและกำลังรอผ่าตัดอยู่ แต่เธอไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าดูแลรักษาลูกชายเธอได้...ทำให้เธอกลุ้มใจมาก

แม้ว่าโอกาสที่จะถูกจับฉลากได้ จะเลือนลางเพียงหนึ่งในสามร้อยคนเท่านั้น แต่พนักงานหนุ่มคนนั้น ก็ตัดสินใจเขียนชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้น ลงไปในใบฉลากของเขา

และแล้วช่วงเวลาที่ตื่นเต้นก็มาถึง ประธานกรรมการบริษัท จะเป็นผู้จับฉลากขึ้นมาเอง

พนักงานหนุ่มอธิษฐานในใจว่า...ขอให้แม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นได้รางวัลด้วยเถอะ

ในที่สุด...ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง

ผู้ที่ถูกจับฉลากได้ก็คือ..."แม่บ้านทำความสะอาด"

เสียงโห่ร้องแสดงความยินดี ดังทั่วสำนักงาน

แม่บ้านทำความสะอาดได้ขึ้นไปรับเงินกองทุน
เธอดีใจมากถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจ "ฉันโชคดีจริงๆ เงินก้อนนี้ คงช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของฉันและลูกชายได้อย่างมากเลยค่ะ"
เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พนักงานหนุ่มยังคงคิดถึง
เรื่อง "ปาฏิหาริย์" ที่เกิดขึ้นอยู่อีก จึงได้เดินไปที่กล่องจับฉลาก

เขาลองหยิบใบฉลากในกล่องขึ้นมาใบหนึ่งเมื่อเปิดดูฉลากก็เห็น ชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นเช่นกัน

เขาชักประหลาดใจ เลยหยิบฉลากขึ้นมา เปิดดูอีกหลายใบ บนฉลากทุกใบล้วนเขียนชื่อของแม่บ้านเหมือนกัน หมดด้วยลายมือที่ต่างกันไป

พนักงานหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม เขาเข้าใจได้ทันทีเลยว่า...ในโลกนี้อาจจะมี "ปาฏิหาริย์" ก็จริง เพียงแต่ว่าปาฏิหาริย์นั้น ไม่ได้หล่นลงมาจากฟากฟ้าเสมอไป แต่เป็นมนุษย์เรานี่เอง ที่สามารถเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

 ดังนั้นเราควรจำไว้ว่า เราต้องรู้จักรักเพื่อนร่วมงาน เห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สังคมจึงจะเป็นสุข แล้วเราก็จะสุขด้วย

ที่มา: http://www.bigza.com/news-175259